วิธีเลือกหมอนสุขภาพแก้ปวดคอ ทำไมเปลี่ยนหมอนหลายใบแล้วยังปวดคอ

เบื่อมั้ยกับการที่ตื่นมาตอนเช้าแล้วพบกับอาการปวด ตึงบริเวณ คอ บ่า ไหล่ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจทำให้ตลอดทั้งวันของเรารู้สึกไม่สดชื่น หรือบางท่านอาการเหล่านี้อาจรบกวนจนถึงขั้นส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวันเลยก็เป็นได้

สาเหตุของการปวดคอ บ่า ไหล่ขณะตื่นนอน

โดยทั่วไปแล้วอาการปวด ตึง เกร็งของกล้ามเนื้อจะ เกิดจากการที่กล้ามเนื้อมีความเมื่อยล้าเนื่องจากถูกใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งหากเราพบเจอกับอาการปวดเหล่านี้ในตอนเช้าที่ตื่นนอนมานั้น ก็แสดงว่าท่านอนของเรานั้นเป็นท่านอนที่ทำให้กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ของเราถูกใช้งานตลอดคืนแทนที่จะได้รับการพักผ่อนในขณะที่นอน ซึ่งท่านอนช่วงคอ บ่า ไหล่ ของเรานั้นจะถูกกำหนดด้วยหมอนเป็นหลัก เนื่องจากหมอนเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รองรับสรีระช่วง คอ บ่า ไหล่ และเป็นตัวกำหนดท่านอนว่าศีรษะควรจะอยู่สูงกว่าลำตัวเป็นความสูงเท่าไหร่ ดังนั้นหมอนที่ดีจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญมากต่อปัญหา ปวด คอ บ่า ไหล่ในตอนเช้าหลังตื่นนอน

ทำไมหมอนที่คนอื่นว่าดี ไม่เห็นดีแบบที่เค้าบอกเลย หมอนที่เหมาะกับเราต้องเป็นอย่างไร?

เนื่องจากรูปทรงของหมอนสุขภาพในตลาดมีให้เลือกหลายหลายรูปทรงมาก แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ารูปทรงไหนที่ดีและเหมาะสมกับเรา? ทางเราเชื่อว่าหลายท่านที่คิดไม่ออกอาจจะเคยขอคำแนะนำจากครอบครัว, เพื่อนๆ หรือคน ใกล้ตัว แต่ผลลัพธ์ก็คือ ไม่ว่าเราจะซื้อตามใครก็ตาม เราก็ยังพบว่าหมอนที่คนอื่นว่าดีนั้น ไม่ได้ดีและเหมาะกับเราเหมือนที่เค้าบอกเลย โดยในวันนี้ทางเราจะมาไขข้อข้องใจข้อนี้กัน
ก่อนอื่นเราจะมาดูรูปทรงของกระดูกคอและกระดูกสันหลังกันก่อน (รูปทรงของกระดูกสันหลังจะถูกจำลองขึ้นมาจากท่าที่เรายืนตัวตรงและแขนขนานลำตัว )

รูปทรงของกระดูกสันหลัง

วิธีในการเลือกหมอนที่เหมาะกับคุณนั้น หมอนที่เหมาะกับคุณจะต้องเป็นหมอนที่ทำให้แนวสรีระของกระดูกคอและกระดูกสันหลังนั้นเรียงตัวใกล้เคียงกับสรีระปกติ ของเราให้ได้มากที่สุดในขณะที่เรานอน เนื่องจากท่านอนที่ใกล้เคียงกับสรีระปกติของเราจะทำให้กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ของเราได้รับการพักผ่อน หากเปรียบเทียบทับท่านอนที่ฝืนกับสรีระของเราซึ่งจะทำให้เราต้องใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำๆตลอดทั้งคืน จนกล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งตึงอันเป็นสาเหตุของอาการปวด คอ บ่า ไหล่
แต่เนื่องจากแต่ละคนมีส่วนสูง น้ำหนักและความโค้งเว้าของกระดูกคอและกระดูกสันหลังที่ต่างกัน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหมอนที่คนอื่นว่าดี(หมอนเหมาะสมกับสรีระของเค้า) จึงไม่ได้ดีกับเรา(หมอนไม่เหมาะสมกับสรีระของเรา)

เพราะสรีระของคุณนั้นแตกต่าง

วิธีเลือกหมอนสุขภาพแก้ปวดคอที่ใช่สำหรับคุณ

จากที่เราทราบกันแล้วว่าสาเหตุของอาการปวด คอ บ่า ไหล่ นั้น เกิดจากการตึง/เกร็งของกล้ามเนื้อที่ต้องทำงานตลอดคืนเนื่องจากหมอนที่ใช้นั้นไม่เหมาะสมกับสรีระ ท่านอนที่ถูกต้องจะต้องเป็นท่านอนที่ทำให้แนวของกระดูกคอและกระดูกสันหลังใกล้เคียงกับสรีระปกติให้ได้มากที่สุด ท่านอนที่เราแนะนำจึงมีเพียง 2 ท่า คือท่านอนหงายและท่านอนตะแคง เนื่องจาก 2 ท่านี้ ด้วยความสูงหมอนที่เหมาะสมจะทำให้แนวของกระดูกคอและกระดูกสันหลังเรียงตัวใกล้เคียงกับสรีระปกติได้ (ท่านอนคว่ำเราจะไม่แนะนำให้นอนเป็นเวลานานๆ เนื่องจากท่านอนคว่ำนั้นแนวของกระดูกจะไม่ได้เป็นเส้นตรงแต่จะมีการบิดในขณะที่นอน) ดังนั้นในวันนี้เราจะแนะนำเกี่ยวกับความสูงและรูปทรงหมอนที่เหมาะสมกับผู้ใช้ออกเป็น 2 ท่านอน ซึ่งก็คือท่านอนหงายและท่านอนตะแคง

1. หมอนสุขภาพแก้ปวดคอสำหรับท่านอนหงาย

ในท่านอนหงายนั้นหมอนที่เหมาะสมกับคุณจะต้องสามารถทำให้แนวของกระดูกคอและกระดูกสันหลังใกล้เคียงกับสรีระปกติ แต่เนื่องจากสรีระช่วงกระดูกคอของแต่ละคนไม่เหมือนกันหมอน หมอนที่เหมาะสมกับท่านอนหงายของแต่ละคนจึงแตกต่างกัน

สรีระช่วงคอของแต่ละคนนั้นแตกต่าง

1.1 ความสูงของหมอนเหมาะสมกับผู้ใช้ (ท่านอนหงาย)

ท่านอนหงายที่ถูกต้อง

ความสูงของหมอนนั้นจะเป็นตัวกำหนดองศาของคอในท่านอนหงาย หมอนที่มีความสูงเหมาะสมกับสรีระของเราจะทำให้ท่านอนของเราเป็นท่านอนที่ใกล้เคียงกับสรีระปกติของเรา
วิธีสังเกตว่าความสูงของหมอนที่เราใช้อยู่นั้นพอดีหรือไม่สามารถทำได้โดยให้คนใกล้ตัวคอยช่วยสังเกตองศาของคอในท่านอน หากหมอนสูงไปจะทำให้องศาของคอนั้นชัน ส่วนหมอนเตี้ยไปจะทำให้องศาของคอนั้นแบนไปเมื่อเทียบกับองศาของคอในท่ายืน โดยที่เมื่อหมอนสูงไปองศาของหน้าจะมีแนวโน้มที่จะก้มเกินไป และเมื่อหมอนเตี้ยเกินไปองศาของหน้าก็จะมีแนวโน้มที่จะเป็นมุมเงยไปตามรูปประกอบข้างล่าง

1.2 ความสูง(นูน)ของหมอนช่วงต้นคอเหมาะสมกับผู้ใช้ (ท่านอนหงาย)

    หมอนที่เหมาะสมกับเรายังจะต้องมีความสูง(นูน)บริเวณต้นคอของหมอนที่พอดีกับความโค้งของกระดูกคอของเราด้วย ถึงแม้ความสูงโดยรวมของหมอนจะเหมาะกับเราแล้วแต่หากความสูง(นูน)บริเวณต้นคอของหมอนไม่เหมาะสมกับเราก็จะส่งผลให้หมอนไม่เหมาะสมกับเราด้วย
    ถ้าความสูง(นูน)ของหมอนมีมากเกินไปจะทำให้องศาของหน้าเป็นมุมเงยขึ้นเนื่องจากตัวหมอนจะไปดันบริเวณต้นคอมากเกินไป ส่วนถ้าความสูง(นูน)ของหมอนบริเวณต้นคอเตี้ยเกินไปก็จะทำให้เกิดช่องว่าง ทำให้ช่วงกระดูกคอของเราไม่มีการรองรับจากหมอน และยังทำให้องศาหน้าของเป็นมุมก้มมากเกินไป
   วิธีสังเกตว่าความสูง(นูน)บริเวณต้นคอของหมอนนั้นเหมาะสมกับความโค้งของกระดูกต้นคอของเรามั้ยนั้น เราสามารถทำได้โดยให้คนใกล้ตัวสังเกตองศาของหน้าในขณะที่นอนและเช็คช่องว่างที่บริเวณต้นคอ ความสูง(นูน)ของหมอนบริเวณต้นคอที่เหมาะสมจะทำให้หน้าของเรามีมุมก้มลงเล็กน้อย โดยที่ผู้นอนจะต้องไม่รู้สึกแน่นที่บริเวณต้นคอ

2. หมอนสุขภาพแก้ปวดคอสำหรับท่านอนตะแคง

ในท่านอนตะแคงนั้นหมอนที่เหมาะสมกับคุณจะต้องสามารถทำให้แนวของกระดูกคอและกระดูกสันหลังใกล้เคียงกับสรีระปกติมากที่สุด แต่เนื่องจากสรีระช่วงไหล่ของแต่ละคนไม่เหมือนกันหมอน หมอนที่เหมาะสมสำหรับนอนตะแคงของแต่ละคนจึงแตกต่างกัน

สรีระช่วงไหล่ของแต่ละคนนั้นแตกต่าง

2.1 ความสูงของหมอนเหมาะสมกับผู้ใช้ (ท่านอนตะแคง)

ท่านอนตะแคงที่ถูกต้อง

ความสูงของหมอนนั้นจะเป็นตัวกำหนดองศาของคอในท่านอนตะแคง วิธีสังเกตว่าความสูงของหมอนที่เราใช้อยู่นั้นพอดีหรือไม่สามารถทำได้โดยให้คนใกล้ตัวคอยช่วยสังเกตองศาของคอในท่านอน หากหมอนสูงไปจะทำให้องศาของคอนั้นชันขึ้น ส่วนหมอนเตี้ยไปจะทำให้องศาของคอนั้นหักลง หมอนสำหรับนอนตะแคงที่ดีจะทำให้องศาของกระดูกคอและกระดูกสันหลังเรียงกันเป็นเส้นตรง

หมอนที่เหมาะสมกับสรีระของผู้ใช้นั้นจะทำให้กล้ามเนื้อช่วงคอ บ่า ไหล่ของผู้ใช้ได้รับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ตลอดคืน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการนอนนั้นดีขึ้น หลับง่ายและสบายขึ้น อาการตื่นกลางดึกและอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ตอนเช้าก็จะลดและบรรเทาลง

วิธีเลือกวัสดุที่ใช้ทำหมอนสุขภาพแก้ปวดคอ

   ศีรษะของเรานั้นมีน้ำหนักที่สูงมากเมื่อเทียบกับอวัยวะส่วนอื่นในร่างกายของเรา โดยศีรษะของเรานั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 8.2% ของน้ำหนักตัวเลยทีเดียว หรือโดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 5 กก. เลยทีเดียว ดังนั้นหมอนที่ดีจึงต้องผลิตจากวัสดุที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ดีและไม่ยุบตัวได้ง่ายเกินไป
    หมอนที่มีความนุ่มและฟูมากๆ นั้นโดยส่วนมากจะมาพร้อมกับความสามารถในการรองรับน้ำหนักที่น้อยด้วย ถึงแม้ว่าตัวหมอนจะนุ่มสบายหลับง่าย แต่เราอาจจะพบว่าเวลาตื่นนอนเรามักจะมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ร่วมด้วย หมอนที่ไม่สามารถรองรับน้ำหนักของศีรษะได้อย่างเต็มที่จะทำให้น้ำหนักของศีรษะนั้นจะไปตกอยู่ที่ บ่า และไหล่แทน จึงทำให้กล้ามเนื้อ ช่วงบ่าและไหล่ทำงานหนัก
   โดยปัญหาหมอนไม่รองรับสรีระนี้เราจะพบบ่อยในผู้ชายที่ชอบนอนตะแคง เนื่องจากผู้ชายมีไหล่ที่กว้างและน้ำหนักศีรษะที่มาก หมอนที่นุ่มและฟูจึงไม่สามารถรองรับสรีระได้ในขณะที่นอน ทำให้บางท่านมีอาการเจ็บหรือชาไหล่เกิดควบคู่กับการปัญหาปวดคอ บ่า ไหล่อีกด้วย

วิธีสังเกตว่าหมอนที่เราใช้อยู่นั้นมีความสามารถในการรองรับน้อยไปมั้ย สามารถทำได้โดยให้สังเกตถึงการยุบตัวของหมอนเวลาที่ศีรษะของเรานอนทับลงไป หมอนที่ไม่สามารถรองรับได้ดีนั้นจะยุบตัวได้ง่าย ทำให้ศีรษะของเราจะจมลงไปในหมอนค่อนข้างลึก เวลาที่เราขยับตัวหรือเปลี่ยนการลงน้ำหนักไปที่หมอนผู้นอนจะรู้สึกว่าหมอนมีความสูงไม่คงที่ขยับไปขยับมา เนื่องจากตัวหมอนจะยุบและให้ตัวได้ง่ายเกินไป
ในขณะเดียวกันหมอนที่ดีก็ไม่ควรเป็นหมอนที่มีความแข็งเกินไป หมอนที่มีความแข็งเกินไปนั้น ตัวหมอนจะไม่สามารถกระจายน้ำหนักของศีรษะได้ดี ทำให้น้ำหนักของศีรษะไปรวมตัวอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป ทำให้เวลานอนเราจะรู้สึกว่าตัวหมอนแข็ง หรือเจ็บที่ศีรษะ เนื่องจากตัวหมอนไม่สามารถกระจายน้ำหนักได้ดีทำให้น้ำหนักของศีรษะไปรวมและกดทับที่ใดที่หนึ่งมากเกินไป

โดยสรุปแล้วหมอนที่ดีต้องเป็นหมอนที่มีความนุ่มเพื่อที่สามารถกระจายน้ำหนักของศีรษะให้ไม่ไปรวมที่ใดที่หนึ่งมากเกินไป แต่ก็ต้องไม่ยุบตัวเกินไปจนไม่สามารถรองรับน้ำหนักของศีรษะได้ ยิ่งคนตัวใหญ่หรือมีน้ำหนักมากก็จะยิ่งต้องการหมอนแน่นที่สามารถรองรับสรีระได้ดีตามน้ำหนักตัว

SUIMI SLEEP หมอนปรับระดับที่เข้ากับสรีระของคุณได้อย่างพอดีที่สุด

นี่คือเหตุผลว่าทำไมหมอนถึงจะต้องปรับระดับได้และควรที่จะมีโซนสำหรับนอนหงายและนอนตะแคงแยกกัน ทางเรา SUIMI SLEEP ได้เห็นถึงจุดนี้และได้ทำหมอนที่ถูกออกแบบโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวด คอ บ่า ไหล่ หรือ ท่านที่ลองหมอนมาแล้วหลายใบก็ยังรู้สึกไม่พอดีซักที วัสดุที่ใช้ในหมอนนั้นเป็นวัสดุนำเข้าจากญี่ปุ่นที่ถูกวิจัยและออกแบบมาเพื่อการนอนโดยเฉพาะ
หมอนของเราเน้นแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ (ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาปวดคอ บ่า ไหล่ ที่เกิดขึ้นหลังตื่นนอน) ไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยปลายเหตุหลังจากที่อาการปวดคอ บ่า ไหล่นั้นได้เกิดขึ้นมาแล้ว (เช่นด้วยการไปนวด หรือทำกายภาพตามโรงพยาบาล) โดยสามารถดูรายละเอียดที่หน้า สินค้า ของเรา